lundi 5 avril 2010

Apprendre le français avec une chanson : 1


L'oiseau et l'enfant - Marie Myriam
ลัวโซ เอ ลองฟอง (เจ้านกและเด็กน้อย) - มารี มีเรียม




Comme un enfant aux yeux de lumière
กอ เมิง นองฟอง โอซีเยอ เดอ ลือมิแยเรอ
ราวกับเด็กน้อยที่ดวงตาทั้งสองส่องประกาย

Qui voit passer au loin les oiseaux
กิ วัว ปาสเซ โอ ลวง เล ซัวโซ
เมื่อมองเห็นฝูงนกบินผ่านไปไกล

Comme l'oiseau bleu survolant la terre
กอม ลัวโซ เบลอ ซือร์วอลอง ลา แตเรอ
ราวกับเจ้านกสีฟ้าที่โบยบินอยู่เหนือผืนดิน

Vois comme le monde, le monde est beau
วัว กอม เลอ มงด์ เลอ มง เต โบ
เธอนั้นมองโลกใบนี้เป็นโลกที่สวยงาม



Beau le bateau, dansant sur les vagues
โบ เลอ บาโต ดองซอง ซือร์ เล วาเกอ
เรืออันสวยงามซึ่งเต้นไปตามจังหวะคลื่น

Ivre de vie, d'amour et de vent
อีฟเวรอ เดอ วี ดามูร์ เอ เดอ วอง
มีชีวิตที่ระเริงด้วยความรักและสายลม

Belle la chanson naissante des vagues
แบล ลา ชองซง แนซองเตอ เด วาเกอ
เสียงเพลงอันไพเราะนั้นเกิดจากเกลียวคลื่น

Abandonnée au sable blanc
อาบองดอเน โอ ซาเบลอ บลอง
ที่จางหายไปในหาดทรายขาว



Blanc l'innocent, le sang du poète
บลอง ลิโนซอง เลอ ซอง ดือ โปแอเตอ
สีขาวบริสุทธิ์นั้นเปรียบดั่งสายเลือดของกวี

Qui en chantant, invente l'amour
กิ ออง ชองตอง แองวองเตอ ลามูร์
กวีที่สร้างความรักขึ้นในขณะที่ขานขับบทเพลง

Pour que la vie s'habille de fête
ปูร์ เกอะ ลา วี ซาบีเยอ เดอ แฟเตอ
เพื่อให้ชีวิตนั้นมีความรื่นรมย์

Et que la nuit se change en jour
เอ เกอะ ลา นึย เซอ ชอง ฌอง ฌูร์
และเพื่อให้ค่ำคืนอันหมองหม่นนั้นกลายเป็นกลางวันอันสดใส



Jour d'une vie où l'aube se lève
ฌูร์ ดือเนอ วี อู โลเบอ เซอ แลฟเวอ
อรุณรุ่งเป็นสัญญาณของชีวิตในวันใหม่

Pour réveiller la ville aux yeux lourds
ปูร์ เรแวเย ลา วี โล ซีเยอ ลูร์
ที่ปลุกให้เมืองซึ่งกำลังหลับใหลนั้นตื่นขึ้น

Où les matins effeuillent les rêves
อู เล มาแตง เซเฟอเยอ เล แรฟเวอ
วันใหม่ที่แสงตะวันปลุกให้เราออกจากภวังค์แห่งฝัน

Pour nous donner un monde d'amour
ปูร์ นู ดอเน เริง มง ดามูร์
เพื่อมอบโลกแห่งความรักแก่เรา



L'amour c'est toi,
ลามูร์ เซ ตัว
ความรักคือเธอ

l'amour c'est moi
ลามูร์ เซ มัว
ความรักคือฉัน

L'oiseau c'est toi,
ลัวโซ เซ ตัว
นกตัวนั้นก็คือเธอ

l'enfant c'est moi
ลองฟอง เซ มัว
เด็กคนนั้นก็คือฉันนั่นเอง



Moi je ne suis qu'une fille de l'ombre
มัว เฌอ เนอะ ซึย กืน ฟีเยอ เดอ ลงเบรอ
ฉัน เป็นเพียงแค่เด็กหญิงที่ซ่อนตัวอยู่ในเงา

Qui voit briller l'étoile du soir
กิ วัว บรีเย เลตัวเลอ ดือ ซัวร์
เด็กหญิงคนที่นั่งมองดวงดาวเปล่งประกายในยามค่ำคืน

Toi mon étoile qui tisse ma ronde
ตัว มง เนตวล กิ ติเซอ มา รงเดอ
เธอนั้นเป็นดวงดาวที่ส่องประกายเติมเต็มชีวิตฉัน

Viens allumer mon soleil noir
เวียง ซาลือเม มง ซอแลย์ นัวร์
เธอเข้ามาจุดไฟ(แห่งรัก)ให้ดวงอาทิตย์อับแสงของฉันได้ฉายรัศมีอีกครั้งหนึ่ง




Noire la misère, les hommes et la guerre
นัวร์ ลา มิแซร์ เล ซอ เม ลา แกเรอ
ความมืดมัวแห่งความทุกข์ทรมาน แห่งมวลมนุษยชาติ และแห่งสงครามนั้นเกิดขึ้นได้

Qui croient tenir les rênes du temps
กิ ครัว เตอนีร์ เล แรเนอ ดือ ตอง
เพราะคนเชื่อว่าสามารถบังคับให้เวลาหยุดเดินได้(ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้)

Pays d'amour n'a pas de frontière
เปยี ดามูร์ นา ปา เดอ ฟรงติแยเรอ
แต่ความรักนั้นไร้พรมแดน(ไม่สามารถบังคับได้)

Pour ceux qui ont un cœur d'enfant
ปูร์ เซอ กิ อง เติง เกอร์ ดองฟอง
ในหมู่มนุษย์ที่มีหัวใจยังเป็นเด็ก(ใจบริสุทธิ์ อ่อนโยน)






Comme un enfant aux yeux de lumière
กอ เมิง นองฟอง โอ ซีเยอ เดอ ลือมิแยเรอ
ราวกับเด็กน้อยที่ดวงตาทั้งสองส่องประกาย

Qui voit passer au loin les oiseaux
กิ วัว ปาสเซ โอ ลวง เล ซัวโซ
เมื่อมองเห็นฝูงนกบินผ่านไปไกล

Comme l'oiseau bleu survolant la terre
กอม ลัวโซ เบลอ ซือร์วอลอง ลา แตเรอ
ราวกับเจ้านกสีฟ้าที่โบยบินอยู่เหนือผืนดิน

Nous trouverons ce monde d'amour
 นู ทรูฟเวอรง เซอ มง ดา มูร์
เราทั้งสองจะ ได้พบโลกแห่งความรัก



L'amour c'est toi,
ลามูร์ เซ ตัว
ความรักคือเธอ

l'enfant c'est moi
ลองฟอง เซ มัว
เด็กคนนั้นก็คือฉัน

L'oiseau c'est toi,
ลัวโซ เซ ตัว
นกตัวนั้นก็คือเธอ

l'enfant c'est moi
ลองฟอง เซ มัว
และเด็กคนนั้นก็คือฉันนั่นเอง



Traduite en Thaï par Prasertporn TIANDAENG





Expressions pratiques
- v.tisser ma ronde = remplir une ronde (figure de note évidée et sans queue “La ronde vaut deux blanches”) 
- v. tenir les rênes du temps = diriger,contrôler du temps,guide,bride etc.




_______________________________________________